มหัศจรรย์อาหารพื้นบ้านไทย
อาหารพื้นบ้านไทย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพให้สมดุล แข็งแรง ให้เหมาะสมกับตนเอง เหมาะสมกับเพศ วัย ฤดูกาล ได้ง่ายๆ
อาหารเป็นปัจจัยที่ 4 ในการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ ช่วยให้พลังงาน สร้างการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทำให้กลไกต่างๆ ของร่างกายสามารถทำหน้าที่ได้เป็นปกติ ในทางตรงกันข้ามอาหารก็สามารถนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บ จากการรับประทานอาหารที่ขาดความเหมาะสม ทั้งปริมาณและคุณภาพก่อให้เกิดโรค และเกิดภาวะมีบุตรยาก ภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น
ภญ.ดร.สุภาพร ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า วิถีอาหารพื้นบ้านไทย และแนวคิดของหมอยาพื้นบ้านนั้น มีทั้งสิ่งที่สอดคล้องและแตกต่างจากอาหารหลัก 5 หมู่ คือ
1.อาหารพื้นบ้านไทยมีความครบถ้วนตามอาหารหลัก 5 หมู่คือ มีคาร์โบไฮเดรตจากข้าว มีโปรตีนจากปลา มีน้ำมันและไขมันจากะทิ ถั่ว งา มีพืชผักนานาเป็นแหล่ง วิตามินและเกลือแร่
2. อาหารพื้นบ้านไทยต้องรับประทานผัก เพื่อไปทำให้ธาตุดินมีความบริบูรณ์ เนื่องจากในธาตุดิน 20 ส่วนนั้น มี 2 ส่วน คือ กะรีสัง( อาหารเก่า) อุทริยัง (อาหารใหม่) ถ้าไม่มีอาหารที่มีกากใย ธาตุดินก็จะไม่บริบูรณ์
3. อาหารพื้นบ้านไทยต้องมีเครื่องเทศ เพราะเครื่องเทศจะไปทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยกำจัดสารพิษ ช่วยในการบีบตัวของลำไส้ ทำให้การย่อย การดูดซึม และการขับถ่ายเป็นปกติ
4. อาหารพื้นบ้านไทยให้ความสำคัญกับอาหารหมัก ปัจจุบันสามารถอธิบายได้ว่า คือการเพิ่มจำนวนของโปรไบโอติกและพรีไบโอติก นอกจากนี้ ความเปรี้ยวจากการอาหารหมักยังให้กรดออร์กานิกโมเลกุลสายสั้นๆ ซึ่งมีคุณสมบัติในการซ่อมแซมผนังลำไส้
5. อาหารพื้นบ้านไทยให้ความสำคัญกับธรรมชาติของคน ของเพศ ของวัย เช่น กระจับจะเหมาะกับวัยเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ เพราะกระจับ แห้ว งา เป็นพืชพรรณมีความชุ่มชื้น มีความอบอุ่น มีความมัน อันจำเป็นในการเสริมความเป็นการเจริญเติบโตในเด็ก รวมทั้งทารกในครรภ์ ส่งเสริมความเปล่งปลั่งและความหล่อลื่นชุ่มชื้นในผู้หญิง ช่วยลดความเหี่ยวแห้งในผู้สูงอายุ การที่สังคมสมัยใหม่ละเลยก็อาจทำให้เกิดภาวะขาดการเสริมสร้าง มีบุตรยาก กระดูกพรุน ลมกำเริบได้ง่าย วิตกกังวล เป็นต้น
6. อาหารพื้นบ้านที่แท้จริงแล้วมาจากความเคารพในธรรมชาติ ความเป็นเกษตรอินทรีย์ อาหารธรรมชาติจึงเป็นคำตอบของการมีสุขภาพดี
นอกจากนี้ในวิถีอาหารพื้นบ้านไทย จะรับประทานข้าวเป็นหลัก มีผักและปลาเป็นพื้นฐาน ซึ่งมีที่มาจากธรรมชาติในแต่ละฤดูกาล เช่น หน้าฝน อุดมไปด้วยหน่อต่างๆ ซึ่งจะให้พลังงานชีวิตที่มีความร้อน จึงเหมาะกับหน้าฝนที่มีความเย็นชื้น เป็นต้น
มีการรับประทานพืชผักหลากหลายครบทุกรส ผักหลายชนิดรสชาติไม่ดีแต่สามารถกินเพื่อเป็นยา ตำรับอาหารจะต้องไม่ขาดเครื่องเทศ มีตำรับน้ำพริกนับพันตำรับ มีตำรับอาหารที่มีน้ำมันและไขมัน เช่น แกงกะทิ ถั่วตัด กระยาสารท กินอาหารต้องกินให้เป็นเวลา มีวัฒนธรรมอาหารหมัก ผักดองนานาชนิด มีวัฒนธรรมกินอาหารเฉพาะฤดู เช่น กินข้าวหลาม ข้าวตำงา กระยาสารทในหน้าหนาว มียาบำรุง ยาหมู่ ยาบำรุงธาตุ เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าในอาหารพื้นบ้านไทยนั้น เป็นวิถีที่อาจไม่มีคำอธิบายเป็นทฤษฎีที่ชัดเจน แต่กลับมีอยู่ในทุกแนวคิดของอาหารที่กล่าวมา ดังนั้น หากคนไทยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองโดยการกินอาหารพื้นบ้านไทย ก็จะทำให้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงได้ และที่สำคัญคุณค่าที่ได้นั้นย่อมมีมากมากเพียงแค่การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างแน่นอน
ที่มา: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เรียบเรียงข้อมูลโดย ADMIN / SJ (TONAN ASIA AUTOTECH)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น