Christmas มาจากภาษาอังกฤษโบราณคือคำว่า Christes Maesse แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า โดยพบคำนี้ครั้งแรกในเอกสารโบราณในปี ค.ศ.1038 ภายหลังแปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ซึ่งวันคริสต์มาส คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก ตามหลักฐานในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลบันทึกไว้ว่า พระเยซูประสูติในสมัยจักรพรรดิซีซ่าร์ ออกัสตัส แห่งโรมัน อย่างไรก็ตามในพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร แต่สาเหตุที่ใช้วันที่ 25 ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูนั้น นักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ ตั้งแต่ปี ค.ศ.274 แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน แต่ด้วยชาวคริสต์สมัยนั้นได้ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนา จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.330 ชาวคริสต์จึงได้เริ่มฉลองวันคริสต์มาสต์อย่างเป็นทางการและเปิดเผยนับจากนั้นเป็นต้นมา จนกลายเป็นเทศกาลที่สำคัญของชาวคริสต์ทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
เด็กชายผู้เกิดในหมู่บ้านเล็ก ๆ มีชื่อว่า "นิโคลัส" ชีวิตของเขาอยู่บนกองเงินกองทอง เพราะพ่อแม่มีฐานะร่ำรวย ต่อมาไม่นานพ่อแม่ก็ถึงแก่กรรม ทรัพย์สินทุกอย่างจึงตกเป็นของบุตรชาย แต่ด้วยนิโคลัสเป็นคนที่มีอุปนิสัยโอบอ้อมอารีต่อคนยากคนจน เขาจึงชอบแจกสมบัติช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจน ครั้นมีครอบครัวของชายชราผู้ไร้ซึ่งเงินทองครอบครัวหนึ่ง กำลังมีปัญหาด้วยบุตรสาวทั้งสามต้องการแต่งงาน แต่ไม่มีเงินจัดพิธีให้สมเกียรติ ครอบครัวนี้จึงตกอยู่ในความทุกข์ แต่เมื่อนิโคลัสทราบข่าว จึงนำทองคำใส่ถุง 2 ถุง แอบย่องเข้าไปวางไว้ในบ้านของชายยากจนยามดึกสงัด ทำให้ 2 สาวได้จัดพิธีแต่งงานได้อย่างใหญ่โตสมความปรารถนา ต่อมาก็ถึงเวลาของบุตรสาวคนสุดท้องนิโคลัสก็นำถุงทองแอบมาหย่อนลงทางปล่องไฟในยามราตรีเช่นกัน จนทำให้นิโคลัสกลายเป็นที่ยกย่องของผู้คน ต่อมาชาวดัตช์บางกลุ่มได้อพยพมาอยู่ในอเมริกาและได้นำความศรัทธาในนักบุญนิโคลัสติดมาด้วย และในที่สุดก็ได้มีการดัดแปลงผสมผสานเข้ากับความเชื่อถือของชาวอเมริกันและเชื้อสายอื่นๆ ทางแถบตะวันออกของอเมริกา ดังนั้นตำนานเซนต์โคลัส จึงได้นำมาผูกโยงกับการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสต์ ซึ่งได้ขนานนามเขาว่า "ซินเตอร์คลาส" ต่อมาได้กร่อนกลายเป็น "ซานตาคลอส" และได้ถูกอุปมาให้เป็นบุคคลที่มาพร้อมกับความรัก ความเมตตากรุณา และความสดใสร่าเริงด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร โดยมีบทบาทและหน้าที่สำคัญกับการแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ในตอนเช้าตรู่ของทุกวันคริสต์มาสต์
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่มา


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น