วัตถุประสงค
1. สามารถใชเครื่องมือวัดอยางละเอียดไดถูกตอง
2. หาคาที่ถูกตองของการวัดขนาดของวัตถุที่กําหนดให
3. สามารถคํานวณเมื่อมีคาคลาดเคลื่อน
ทฤษฎี
การวัด
เปนหัวใจสําคัญในการศึกษาทางฟสิกส โดยเฉพาะฟสิกสภาคปฏิบัติการลวนแลวแตเกี่ยวของกับ
การวัดที่คอนขางละเอียด ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความคลาดเคลื่อนทั้งหลายที่อาจจะจะเกิดขึ้นในระหวางการทดลองนั้น
จึง
ควรศึกษาการใชเครื่องวัดละเอียดใหเขาใจเสียกอน
ดังนี้
1. เวอรเนียรคาลิปเปอร (Vernier
Caliper)
เปนเครื่องมือที่ใชวัดความยาวของวัตถุทั้งภายใน
และภายนอกในของชิ้นงาน ระดับมิลลิเมตร ทศนิยม 2 ตําแหนง
เวอรเนียรมีลักษณะโดยทั่วไปดังแสดงในรูปที่ 1
ประกอบดวย
สเกลหลัก A เปนสเกลไมบรรทัดธรรมดา
ซึ่งเปนมิลลิเมตร (mm) และนิ้ว (inch)
สเกลเวอรเนีย B ซึ่งจะเลื่อนไปมาไดบนสเกลหลัก
ปากวัด
C – D ใชหนีบวตถั ุที่ตองการวัดขนาด
ปากวัด
E – F ใชวัดขนาดภายในของวัตถุ
ปลาย G
ใชวัดความลึก
ปุม H
ใชกดเลื่อนสเกลเวอรเนียรไปบนสเกลหลัก
สกรู I
ใชยึดสเกลเวอรเนียรใหติดกับสเกลหลัก
ความละเอียดของสเกลเวอรเนียร์
ถาให S เปนความยาว 1
ชองของสเกลหลัก
V เปนความยาว
1 ชองของสเกลเวอรเนียร
และ N เปนจํานวนชองบนสเกลเวอรเนียร
เมื่อเริ่มใหขีดที่ศูนยของทั้งสองตรงกัน
แลวขีดสุดทาย (ขีดที่ n) ของสเกลเวอรเนียรจะตรงกับขีดที่ n-1 ของสเกลหลัก ขีดอื่น ๆ จะไมตรงกันดังรูปที่ 2
ถาเลื่อนสเกลเวอรเนียรไปทางขวาเล็กนอย
โดยใหขีดที่ 1 ของสเกลเวอรเนียรตรงกับขีดที่ 1
ของสเกลหลักดัง
แสดงในรูปที่ 3
ถา S = 1 mm
และ V = 0.9 mm (10
ชองของสเกลเวอรเนีย = 9 mm)
จากรูปจะไดวา
1(S – V) = 0.1
ถาขีดที่ 3
ตรงกันจะไดวา
3(S – V) = 3(0.1) =
0.3
และเมื่อเลื่อนจนกระทั่งขีดที่ 10 (หรือ
n) ของสเกลทั้งสองตรงกัน ดังแสดงในรูปที่ 5
จากรูปที่ 5
จะเห็นวา ขีดที่ศูนยของสเกลเวอรเนียรจะตรงกับขีดที่ 1
ของสเกลหลักพอดี นั่นคือ สเกลเวอร
เนียรเลื่อนไปเปนระยะทางเทากับ S พอดี
ดังนั้น
n( S – V ) = S
หรือ S
- V = S/n (1)
เมื่อ S - V เปนระยะทางที่สั้นที่สุดที่สามารถอานไดจากเครื่องวัดชนิดนี้
เรียกวา คาที่นอยที่สุดที่อานได (Least Count) ซึ่งเปน
ความละเอียดที่สุดของเครื่องวัด
ดังนั้น คาความละเอียดของเครื่องวัดมีคาเทากับ
S/n
หรือ Least
Count = S/n (2)
เมื่อ S
= ความยาว 1 ชองของสเกลหลัก
n = จํานวนชองของสเกลเวอรเนียร
โดยปกติแลว ตัวเลขที่แสดงคาความละเอียดที่สุดของเครื่องวัดนี้
มักจะเขียนไวบนสเกลเวอรเนียรในหนวยตาง ๆ เสมอ เชน 0.1 mm. สําหรับสเกลเวอรเนียรชนิด
10 ชอง (n = 10) 0.05 mm. สําหรับสเกลเวอรเนียรชนิด
20 ชอง (n = 20)และ
0.02 mm. เมื่อสเกลเวอรเนียรมีจํานวนชอง 50
ชอง (n = 50) เวอรเนียรที่อยูในหองปฏิบัติการฟสิกสสวนใหญจะมีทั้งชนิด
n = 20 และ n = 50
สวนชนิด n = 10 ไมคอยมีใชแลว
การอานสเกลเวอรเนีย
เมื่อผลการวัดของวัตถุอันหนึ่งดังแสดงในรูปที่
6
จากรูปที่ 6
อานไดดังนี้
1. ขณะนี้ขีดที่ 0
ของสเกลเวอรเนียอยูที่ตําแหนงที่ 11.00 มิลลิเมตร เลยออกมาเล็กนอยบนสเกลหลัก
2. และขีดที่ 13
ของสเกลเวอรเนียตรงกับขีดบนสเกลหลัก จึงนําเอาเลข 13
คูณกับ least count จะไดเปนคาเศษของมิลลิเมตร คือ 13 x
0.05 = 0.65 มิลลิเมตร
3. นําคาที่อานไดจากขอ 1
บวกกับคาที่อานไดในขอ 2 ก็จะเปนผลการวัดในครั้งนี้ นั่นคือ
คาที่วัดได = 11.00 + 0.65มิลลิเมตร
=
11.65 มิลลิเมตร
ลําดับการอานคาผลการวัด
1. กอนใชเวอรเนีย ตองตรวจสอบดูวามีคา least
count เทาใด โดยดูจากตัวเลขที่เขียนไวบนสเกลเวอรเนียร์
หรืออาจจะคํานวณจากสูตร least count = S/n ก็ได
2. ตองดูวาขีดที่ศูนยของสเกลเวอรเนียอยูที่ตําแหนงใดบนสเกลหลัก
แลวอานคาบนสเกลหลักในหนวยมิลลิเมตร หรือนิ้วก็ได ตามที่เราตองการ
3. ตอไปดูวามีเศษของมิลลิเมตรหรือนิ้ว หรือไม
ถามีดูวาขีดที่เทาใดบนสเกลเวอรเนียตรงกับขีดใดขีดหนึ่งบนสเกลหลักแล้วเอาคูณกับคา
least count จะไดเปนเศษของหนวยวัดนั้น
4. ผลการวัดคือผลรวมของคาที่ไดจากขอ 2 และ
3
2. ไมโครมิเตอร ( Micrometer )
เปนเครื่องมือวัดขนาดของวัตถุที่ตองการความละเอียดสูงในระดับทศนิยม
3 ตําแหนงของมิลลิเมตรเครื่องวัด
ชนิดนี้อาศัยหลักการ การเคลื่อนที่ของสกรู
ซึ่งมีสวนประกอบที่สําคัญดังแสดงในรูปที่ 7
โครง A มีลักษณะคลายกับคันธนูหรือตะขอเกี่ยว
มีปากวัด C-D และแกนสเกลนอน B ติดอยูแกนสเกลนอน
B
เปนสเกลหลัก มีหนวยเปนมิลลิเมตร
โดยแบงออกเปนขีดละ 1 มิลลิเมตร ซึ่งแตละขีดจะมีขีดแบงครึ่งมิลลิเมตรกํากับดวย
สเกลวงกลม H มีลักษณะเปนปลอกครอบสเกลหลัก B แบงจํานวนขีดโดยรอบทั้งหมด
50 ชอง ทําหนาที่เหมือนสเกลเวอรเนีย
แกน G ใชสําหรับหมุนเพื่อใหปากวัด D เลื่อนไปสัมผัสกับผิวของวัตถุที่ตองการวัด
ภายในปุม G มีสปริงเพื่อปรับแรงกด เมื่อปากวัด D สัมผัสพอดีกับผิววัตถุ
จะมีเสียงดังกริ๊กเบาๆ แสดงวาสปริงรับแรงกดพอดีแกนวัดจะไมเดินหนาต่อไปอีก
ปุม I ใชตรึงแกนวัด ปลอกวัด และปุม G
ใหติดกับโครง A ทําใหสเกลไมเลื่อนตําแหนงขณะอานคา
เวลาใชตองบิดไปทาง ซายสุด
ความละเอียดของไมโครมิเตอร
เมื่อปากวัด C - D สัมผัสกัน
ขีดที่ 0
ของสเกลวงกลมจะทาบพอดีกับแกนสเกลนอนและถาหมุนสเกลวงกลมถอยหลังไป 1รอบ
ขีดที่ 0 ของสเกลวงกลมจะทาบพอดีกับแกนนอน และขอบของสเกลวงกลมจะทับพอดีกับขีดแบงครึ่งมิลลิเมตรบนสเกลหลัก ซึ่งหมายความวา
ถาหมุนแกนวัดถอยหลังไปเพียง 1 ชอง ปากวัด C - D จะหางกันเปนระยะ5.0/50 = 0.010 มิลลิเมตร ซึ่งเปนคาที่นอยที่สุดที่สามารถอานไดจากเครื่องวัดชนิดนี้ เรียกวา least
count
ปกติคา least count ของเครื่องไมโครมิเตอรจะเขียนไวบนโครง
A เชน 0.01 mm เปนตน
วิธีใชไมโครมิเตอร
หมุนแกน G ใหแกนวัดถอยหลังเพื่อทําใหปาก
C - D เปดกวางกวาขนาดของวัตถุเล็กนอย
แลวนําวัตถุที่จะวัดขนาดไปไวระหวางปาก C - D ใหดานหนึ่งชิดปากวัด
C ไว แลวหมุนแกน G ใหปากวัด
D มาสัมผัสพอดีกับผิวดานหนึ่งของวัตถุ โดยสังเกตจากเสียงกริ๊กเบาๆ
จากนั้นใหบิดปุม I ไปทางซายเพื่อตรึงแกนวัดไวแลวจึงอานคาการวัดได
การอานคาการวัดบนสเกลไมโครมิเตอร
เมื่อวัดขนาดของวัตถุอันหนึ่ง
ดังแสดงในรูปที่ 8
โดยที่
Least Count ของไมโครมิเตอร = 0.010 mm
1. ขณะนี้ขอบของสเกลวงกลมอยูที่ตําแหนงที่ 11.500
มิลลิเมตร เลยออกมาเล็กนอยบนสเกลหลัก
2. ขีดที่ 22.5
ของสเกลวงกลมตรงกับแกนนอนบนสเกลหลัก แลวเอาตัวเลข 22.5
นี้คูณกับคา Least Count จะไดเปนค่าเศษของมิลลิเมตร เปน 22.5
x 0.010 = 0.225 mm
3. นําคาที่ไดจากขอ (1) และขอ
(2) รวมกัน จะไดเปนผลการวัดครั้งนี้ นั่นคือ
ผลการวัด = 11.500 mm + 0.225 mm
= 11.725 mm
รูปที่ 9 เปนผลการวัดของวัตถุอีกอันหนึ่ง
เมื่อ Least Count เปน 0.010 mm
1. ขณะนี้ขอบของสเกลวงกลมอยูที่ตําแหนงที่
3.000 มิลลิเมตร เลยออกมาเล็กนอยบนสเกลหลัก
2. ขีดที่ 37.0
ของสเกลวงกลมตรงกับแกนนอนของสเกลหลักดังนั้นเศษของมิลลิเมตร
= 37.0
x 0.010 = 0.370 mm
3. ผลการวัดครั้งนี้ = 3.000 + 0.370 = 3.370
mm
ดังนั้นลําดับขั้นการอานคาการวัดเปนดังนี้
1. กอนใชไมโครมิเตอรตองดูวาคา Least
Count เทากับเทาใด โดยดูจากตัวเลขที่เขียนไวบนโครง
A หรืออาจจะคํานวณก็ได (โดยดูจากหัวขอความละเอียดของไมโครมิเตอร)
2. ตองดูวาขอบของสเกลวงกลมอยูที่ตําแหนงที่เทาใดของสเกลหลัก
อานในหนวยมิลลิเมตร
3. ตอไปดูวา ขีดที่เทาใดบนสเกลวงกลมอยูตรงกับเสนแกนของสเกลหลัก
แลวเอาตัวเลขนี้คูณกับคา Least Count จะไดเปนเศษของมิลลิเมตร
4. ผลรวมที่ไดจากขอ 2
และ ขอ 3 คือผลการวัด
ความคลาดเคลื่อนของไมโครมิเตอร ( Zero
Error )
ไมโครมิเตอรที่อยูในสภาพพรอมใชงาน
เมื่อปากวัด C - D สัมผัสพอดี ขีดที่ 0
ของสเกลวงกลมจะทับกับแกนนอนของ
สเกลหลัก และขอบของสเกลวงกลมจะทับขีดที่ 0
ของสเกลหลักพอดี ดังแสดงในรูปที่ 10
แตในบางครั้งอาจจะเกิดความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได
ดังกรณีรูปที่ 11 เมื่อใชวัดของสิ่งใดแลว จะไดคานอยกวาความเป็นจริงอยู
0.020 มิลลิเมตรเสมอ ดังนั้นเมื่ออานคาการวัดใดๆ
แลวจึงตองบวกดวย 0.020 มิลลิเมตร เขาไปดวย
สําหรับกรณีรูปที่ 12
เมื่อใชวัดของสิ่งใดแลวจะไดคามากกวาความเปนจริงอยู 0.030
มิลลิเมตร
ดังนั้นเมื่ออานคาการวัดใดๆ แลวจึงตองลบออกดวย 0.030 มิลลิเมตร เสมอ
ขอบคุณที่มาจาก / http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/Labphysic1/PhysicsLab1-49/Lab02-Vernier.pdf
เรียบเรียงข้อมูลโดย ADMIN / SJ (TONAN ASIA AUTOTECH)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น