วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มะเร็งรังไข่


เรื่องมะเร็งรังไข่ที่นักร้องสาวพิมพ์ ซาซ่ากำลังสู้กับมันอยู่นะครับ

ไอ้มะเร็งชนิดนี้เนี่ยหญิงไทยเป็นกันเยอะพอควรเลย
แต่ที่น่ากลัวคือ มันเป็นมะเร็งในเพศหญิงที่ทำให้คนเสียชีวิตเยอะที่สุด

รังไข่คืออวัยวะที่ทำหน้าที่ผลิตไข่และฮอร์โมนเพศ
สาเหตุของมะเร็งรังไข่ยังไม่ชัดเจน แต่ในปัจจุบันพบว่าอาจมีความสัมพันธ์กับปัจจัยบางอย่าง  อย่างที่เป็นข่าวกันว่าการใช้แป้งที่มีทัลคัมปะบริเวณจิ๋มบ่อยๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่ได้  หรือความผิดปรกติทางพันธกรรมบางประเภท การใช้ยาที่เกี่ยวกับฮอร์โมนบางชนิด การไม่มีบุตร การกินอาหารที่มีไขมันสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เป็นมะเร็งรังไข่ได้

สาเหตุที่มะเร็งชนิดนี้ทำให้หญิงไทยเสียชีวิตเยอะสุด
เพราะส่วนมากกว่าจะพบว่าเป็น ก็มักเป็นระยะท้ายๆแล้ว

มะเร็งรังไข่ในระยะแรกๆ คนที่เป็นอาจไม่มีอาการอะไรเลย หรืออาจมีอาการปวดจุกเสียดท้องนิดหน่อย ซึ่งก็ยังไม่จำเพาะเจาะจงกับโรคนี้ พอมะเร็งรังไข่โตขึ้น ก้อนโตขึ้น จนกดอวัยวะอื่น เช่น ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้คนไข้ถึงจะไปหาหมอ แต่นั่นก็เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปไกลแล้ว

การตรวจคัดกรองมะเร็งรังไข่ ปัจจุบันแนะนำให้ทำในกลุ่มเสี่ยงที่มีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งรังไข่ เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม กลุ่มนี้มีควรทำอัลตร้าซาวด์ ตรวจมะเร็งปากมดลูก และตรวจเลือดเพื่อดูสารบ่งชี้มะเร็ง เช่น CA-125  

ถ้าไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง ลองไปตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองมะเร็งรังไข่กันหน่อยก็ดีนะครับ ที่สำคัญคือผู้หญิงก็ควรตรวจหาความผิดปรกติในร่างกายตัวเองบ่อยๆ ถ้าเกิดมีอาการผิดปรกติ เช่น มีเลือดแปลกๆที่ไม่ใช่รอบเดือนไหลทางช่องคลอด คลำเจอก้อนในท้อง ก็ควรไปพบแพทย์เสมอนะคนับ

เดดิตภาพจาก http://www.komchadluek.net/detail/20140815/190086.html
Cr.Drama-addict

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

10 กุมภาพันธ์ วันอาสารักษาดินแดน / Admin SD (Tonan Asia Autotech)




               10 กุมภาพันธ์ วันอาสารักษาดินแดน อีกหนึ่งวันสำคัญที่ชาวไทยจะร่วมกันรำลึกถึงความกล้าหาญของหน่วยพลเรือนอาสา ผู้เสียสละเพื่อบ้านเมืองทั้งในภาวะปกติและภาวะสงคราม ว่าแต่ ประวัติวันอาสารักษาดินแดน มีจุดกำเนิดขึ้นได้อย่างไร และเมื่อใดนั้น ไปหาคำตอบพร้อมกันเลย...
http://kp.thaibuffer.com/o/img_cms2/dookdik/1138515697.gifhttp://kp.thaibuffer.com/o/img_cms2/dookdik/1138515697.gifhttp://kp.thaibuffer.com/o/img_cms2/dookdik/1138515697.gif
ประวัติวันอาสารักษาดินแดน

         
 สำหรับความเป็นมาของ วันอาสารักษาดินแดน 10 กุมภาพันธ์ เกี่ยวพันกับการก่อตั้ง กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ซึ่งเป็นองค์กรที่ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้บัญชาการ สืบเนื่องจากเมื่อครั้งอดีต ชาวบ้านซึ่งไม่ใช่กำลังทหารมักออกมารวมตัวกันต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินในยามเกิดศึกสงครามเสมอ

          ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนากองเสือป่าขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2454 ให้เป็นกองพลอาสาสมัครเพื่ออบรมข้าราชการและประชาชนให้รู้จักรักชาติ รู้จักหน้าที่ในการป้องกันรักษาประเทศชาติ

          จากความพยายามจัดตั้งหน่วยพลเรือนอาสาให้เป็นระบบ โดยมีการนำแนวคิดจากต่างประเทศมาใช้ ในเวลาต่อมา ยุคสมัยที่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มี พระราชบัญญัติกำหนดหน้าที่คนไทยในเวลารบ พ.ศ. 2481 และพระราชบัญญัติให้อำนาจในการเตรียมการป้องกันประเทศ พ.ศ. 2484 เพื่อฝึกอบรมคนไทยให้รู้จักหน้าที่ในการที่จะป้องกันรักษาประเทศชาติในเวลาสงคราม โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าหน้าที่ดำเนินการ

          ในเวลาต่อมาได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติกองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2497 สืบเนื่องจากการดำเนินการด้านพลเรือนอาสามีรูปแบบและระบบที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งมีการพัฒนามาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จึงเป็นวันคล้ายวันสถาปนากองอาสารักษาดินแดนนั่นเอง


กิจกรรมวันอาสารักษาดินแดน

          การปกป้องประเทศชาติเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน แต่หากแต่ประชาชนทุกหมู่เหล่าไม่ได้รับการฝึกอบรมความรู้ ความสามารถ ก็จะไม่สามารถปกป้องประเทศชาติได้เท่าที่ควร ดังนั้นเมื่อถึงวันอาสารักษาดินแดนของทุก ๆ ปี นอกจากการร่วมรำลึกถึงเหล่าผู้เสียสละที่จากไปแล้ว ทางกองอาสารักษาดินแดนในแต่ละจังหวัด จะมีการจัดกิจกรรมที่คล้ายคลึงกัน ดังนี้

        -  การร่วมพิธีชุมนุมของผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่

        -  การร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณ

        -  การรายงานผลการปฏิบัติงานของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนด้านต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมา

        -  การมอบประกาศนียบัตรแก่กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่มีผลงานดีเด่น

        -  การมอบเงินทุนการศึกษาแก่บุตรสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน

        -  การให้ความรู้กับประชาชนในด้านต่าง ๆ

          และเนื่องจากหลักการสำคัญของกองอาสารักษาดินแดน คือ การจัดเตรียมกองกำลังสำรองไว้ช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ทั้งยามปกติและยามสงคราม ดังนั้นผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน http://asa.dopa.go.th





ภาพจาก maehongson.go.th
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
asa.dopa.go.thmaehongson.go.th
http://hilight.kapook.com/view/97447

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วันทหารผ่านศึก 2559



วันทหารผ่านศึก


 ความสำคัญของวันทหารผ่านศึกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"   ซึ่งวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่วันทหารผ่านศึกเท่านั้น เพราะอนุสรณ์สถานอย่างอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะต้องมีการวางพวงมาลา บุคคลสำคัญของประเทศเพื่อให้เหล่าชาวไทยได้ร่วมคารวะดวงวิญญาณของทหารหาญและเหล่าวีรชนคนกล้า ที่มีชื่อจารึกอยู่บนอนุสาวรีย์ และเพื่อเป็นการเทิดเกียรติแก่คนเหล่านั้นที่ได้เสียสละชีพเพื่อชาติ และปกป้องอธิปไตยของชาติไทยในเหตุการณ์พิพาทระหว่างไทยและฝรั่งเศส ในการเรียกร้องดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคืน 

ความหมายของวันทหารผ่านศึก

คือวันที่ประชาชนทั่วไป อีกทั้งให้ส่วนราชการ ภาคเอกชน มีส่วนร่วมในการส่งเสริมเชิดชูเกียรติและเอื้ออาทรต่อทหารผ่านศึก เพื่อสดุดีวีรกรรมของทหารผ่านศึก วีรชนผู้กล้า ที่เสียสละเพื่อแผ่นดิน



วันทหารผ่านศึกในประเทศไทย

เพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ ตลอดจนเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีและวีรกรรมของเหล่าทหารหาญที่ทำให้เราอยู่กันอย่างสงบสุขบนผืนแผ่นดินไทย   สำหรับประเทศไทยได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามต่างๆ มาแล้ว โดยมีอนุสาวรีย์เชิดชูเกียรติ ปรากฏเป็นอนุสรณ์อยู่ ซึ่งวีรกรรมของนักรบไทยในการรบได้ขจรขจายไปทั่ว ปรากฏต่อสายตาชาวโลก นับเป็นโอกาสอันดีที่ชาวไทยจะได้แสดงความระลึกถึง และช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว ด้วยการซื้อดอกป๊อปปี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึก ผู้กล้าหาญ และเสียสละ เพราะดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึกไทยเช่นเดียวกับในต่างประเทศ และมีการจำหน่ายในวันที่ระลึกทหารผ่านศึก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 เป็นต้นมา เพราะเหล่าทหารกล้าที่ทำให้พวกเราชาวไทยมีอธิปไตยมีชาติ บ้านเมือง ให้ได้อยู่อาศัย ตราบชั่วลูกชั่วหลานจวบจนปัจจุบัน

ทุกวันที่ 3 กุมภาพันธ์ คนไทยทุกคนจะได้มีโอกาสแสดงความระลึกถึงคุณความดี และความกล้าหาญของเหล่าบรรดาวีรชนไทย ที่ยอมสละเลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อปกป้อง เอกราชอธิปไตยของแผ่นดินไทยไว้ให้พวกเรา ได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาจน

วันทหารผ่านศึกของต่างประเทศ

ทุกประเทศย่อมมีเหล่าทหารกล้า เพื่อเตรียมตัวป้องกันข้าศึก และออกรบในยามที่เกิดสงคราม ซึ่งที่ผ่านมาไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย ที่มีเหล่าทหารกล้ายอมพลีชีพในหน้าที่ของตัวเองในสนามรบ เพราะทหารผ่านศึกเหล่านี้ต่างมีบุญคุณต่อชาติบ้านเมือง แต่ละประเทศจึงได้จัดงานเทิดเกียรติขึ้นมา ซึ่งของเมืองนอกก็มีเช่นกัน โดยอาจจะจัดเป็นขบวนพาเรด จากเหล่าทหารกล้า นักเรียนนายร้อย หรือเตรียมทหารที่จะมาเดินสวนสนาม โดยมีรถตำรวจ และรถดับเพลิงร่วมขบวน และมีประชาชน รวมถึงเหล่าอดีตทหารผ่านศึก มาร่วมชมขบวนแห่นี้ด้วย

วันที่ใช้จัดงานวันทหารผ่านศึก

ทุกวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ร่วมระลึกและเชิดชูเกียติแก่เหล่าทหารกล้า ด้วยการซื้อดอกป๊อบปี้สีแดง 

ปฏิทินวันทหารผ่านศึก

วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2550 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 / วันเสาร์ แรม ๑ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีจอ
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2551 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2551 / วันอาทิตย์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีกุน
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2552 ตรงกับ วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 / วันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีชวด
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2553 ตรงกับ วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 / วันพุธ แรม ๔ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีฉลู
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2554 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2554 / วันพฤหัสบดี แรม ๑๕ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีขาล
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2555 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 / วันศุกร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีเถาะ
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2556 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556 / วันอาทิตย์ แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2557 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 / วันจันทร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีมะเส็ง
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2558 ตรงกับ วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558 / วันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีมะเมีย
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2559 ตรงกับ วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559 / วันพุธ แรม ๑๑ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะแม
วันทหารผ่านศึก พ.ศ.2560 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 / วันศุกร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีวอก

ประวัติ วันทหารผ่านศึก

วันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ เป็นวันคล้ายวัน สถาปนาองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและ เป็นวันทหารผ่านศึก ซึ่งคณะรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวันทหารผ่านศึกขึ้น เพื่อให้สังคมตระหนักถึงความสำคัญ ของทหารผ่านศึก รวมถึงให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่ทหารผ่านศึกเนื่องจากทหารผ่านศึกบางคนได้รับบาดเจ็บจนต้องทุพพลภาพ เสียแขน ขา หรืออวัยวะที่สำคัญบางอย่างทำให้ไม่สามารถจะประกอบอาชีพได้เหมือนกับคนปกติ และไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และสังคม เนื่องจากขาดความสามารถในการประกอบอาชีพ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2538 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้จัดงานวันทหารผ่านศึก เพื่อสดุดีวีรกรรมทหารผ่านศึก ทหารกล้าผู้ที่เสียสละเพื่อรักษาประเทศชาติ

มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2488 โดยเรียกชื่อว่า "คณะกรรมการพิจารณา หาทางช่วยเหลือทหารกองทุน" ในสมัย พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม เป็นผู้พิจารณาดำเนินการช่วยเหลือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยตระหนักถึงคุณความดีของ ทหารหาญเหล่านั้น รัฐบาลจึงหาหนทางที่จะให้ความช่วยเหลือมาตลอด เหล่าทหารกล้าที่เป็นกองกำลังในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ พวกเขาพร้อมเผชิญหน้ากับ ศัตรูอย่างไม่หวั่นเกรงต่ออันตรายใดๆ ทหารทุกคนต่างสละได้ทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่ร่างกายและลมหายใจ

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันทหารผ่านศึก สภาทหารผ่านศึก สภากลาโหม และรัฐบาลได้ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ เพื่อขยายการสงเคราะห์ให้ครอบคลุมไปถึงทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และ พลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันหรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักร ทั้งภายในและภายนอกประเทศตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด กับทั้งให้รวมมูลนิธิช่วยทหารและครอบครัวทหารที่ไปช่วยสหประชาชาติทำการรบ ด้วยจำนวนของทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึกมีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก การดำเนินงานโดยคณะกรรมการจึงไม่รัดกุมและเหมาะสมกับเหตุการณ์ รัฐบาลจึงได้จัดตั้งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เรียกชื่อย่อว่า "อผศ" เพื่อเป็นหน่วยงานถาวรที่จะทำหน้าที่ในการดูแลให้การสงเคราะห์แก่ ทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึกโดยตรง

ความช่วยเหลือเหล่าทหารผ่านศึกและครอบครัว ได้มีการสงเคราะห์จากองค์การสำหรับประเภทต่างๆครอบครัวทหารผ่านศึกและนอกประจำการ ด้วยการสงเคราะห์ด้านสวัสดิการทั่วไป ด้านอาชีพ มีการจัดอบรมอาชีพสำหรับทหารที่ทุพลภาพ ด้าน เกษตรกรรม ด้านการรักษาพยาบาล ด้านส่งเสริมสิทธิและเกียรติ

การรบของเหล่าทหารกล้า ที่เป็นแนวหน้าคอยปกป้องประเทศชาติไม่ให้ศัตรูมารุกราน แต่หลังจากสงครามสิ้นสุดลง การสูญเสียมักจะมาเยือนเสมอ ทั้งบาดเจ็บ ล้มตาย รวมถึงพิการ แม้ในช่วงแรกเหล่าทหารกล้าถูกเชิดชูและมีเกียรติในฐานะวีรบุรุษ แต่นานวันเข้าก็เหล่าวีรบุรุษก็ถูกสังคมลืมเลือน

กิจกรรมในวันทหารผ่านศึก

กิจกรรมในวันทหารผ่านศึก ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลและประชาชนชาวไทยยังคงระลึกถึงและไม่ลืมเลือน วีรกรรมที่เหล่าวีรชนทหารผ่านศึกได้เคยทำเพื่อชาติ แผ่นดิน และเพื่อคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งในแต่ละปีเหล่าชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกถึงเพื่อเชิดชูเกียรติเหล่าทหารกล้า...นักรบของแผ่นดิน

จัดนิทรรศการ

ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา มีเหล่าทหารกล้าผู้ซึ่งเสียสละแม้กระทั่งชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยและอธิปไตยของชาติ การจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่วีรกรรมของทหารผ่านศึก เพื่อเชิดชู ยกย่องเกียรติและความกล้าหาญ ที่เหล่าทหารสามารถปกป้องผืนแผ่นดินไทยนี้ไว้ได้

วางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

วันทหารผ่านศึกมีเหล่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หน่วยงานของรัฐบาล และเอกชน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ต่างพร้อมใจกัน เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา และบำเพ็ญกุศลให้กับนักรบผู้ยิ่งใหญ่ ที่เสียสละชีวิตเพื่อความสงบสุขของ ประเทศชาติ ซึ่งในวันทหารผ่านศึกของทุกปี องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกจะจัดพิธีวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นการแสดงความคารวะต่อดวงวิญญาณของเหล่านักรบผู้กล้า มีการประกอบพิธีวางพวงมาลา บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และพิธีเทิดไท้องค์ราชันย์ การเดินแถวของทหารผ่านศึก พิธีสวนสนามสดุดีทหารผ่านศึก ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ การเชิญหมู่ธงไตรรงค์ และหมู่ธง 6 กรณีสงคราม เพื่อเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกดีเด่น  

จำหน่ายดอกป๊อปปี้ 
จำหน่ายดอกป๊อปปี้ เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือทหารผ่านศึก การนำเอาผลผลิตของทหารมาจำหน่ายกับประชาชน ถือเป็นการบริจาคช่วยเหลือทหารผ่านศึก ซึ่งการทำดอก ป๊อปปี้ ออกไปขายสู่ประชาชน อาจมีการตั้งกองทุนขึ้นทุกๆปี

จัดงานทั่วประเทศ

ตามสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดงานในวันทหารผ่านศึก เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมและคุณงามความดีของเหล่าทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อชาติ และเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก รวมทั้งการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ดวงวิญญาณของบรรดาทหารผ่านศึกผู้ล่วงลับไปแล้ว 

สิ่งที่ควรทำให้กับทหารผ่านศึก

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี  เนื่องจากหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลัง สงครามมหาเอเซียบูรพา สิ้นสุดลง มีทหารไทยจำนวนมากที่ถูกปลดประจำการ จึงได้มีเสียงเรียกร้องขอให้ทางการพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ทหารเหล่านั้น ประเทศไทย เป็นชาติหนึ่งที่มีประวัติการสู้รบอันยาวนาน …มิใช่เพื่อรุกราน แต่เพื่อการปกป้องเอกราชอธิปไตยและดินแดนไว้ให้ลูกหลานสืบไป นักรบผู้กล้าต้องสละชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไว้ ชาวไทยทุกคนต่างรำลึกในวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของวีรชนไทย ซึ่งการให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือเหล่าทหารผ่านศึก ถือเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติยิ่ง

เข้าถึงปัญหาเหล่าทหาร

ทหารผ่านศึกแต่ละรายมีความต้องการที่ไม่ซ้ำกัน การให้ความช่วยเหลือในเรื่องไร้ที่อยู่ในหมู่ทหารผ่านศึกกฎหมายนี้จะช่วยสร้างบ้านชั่วคราวให้แก่ทหารผ่านศึกที่ไม่มีที่อยู่อาศัย และสร้างบ้านอุปถัมภ์ให้แก่ทหารผ่านศึกที่มีการบาดเจ็บ ทางร่างกาย ปัญหาสุขภาพจิต หรือโรคเครียดจากเหตุร้ายที่เกิดจากการ ปฏิบัติหน้าที่ของพวกเขา ซึ่งสิ่งที่จะช่วยเหล่าทหารกล้านี้ไม่แสวงผลกำไร และรัฐบาลท้องถิ่น สามารถก่อสร้างบ้านใหม่หรือบูรณะสถานที่ที่มีอยู่เพื่อให้ตอบ สนองต่อความต้องการของทหารผ่านศึก

เข้าใจถึงสภาพจิตใจ
เพราะทหารบางคนที่สูญเสียอวัยวะร่างกายบางส่วน อาจเกิดภาวะจิตใจที่เครียด และกดดัน การเข้าถึงภาวะจิตใจของเหล่าทหารกล้า ผู้ซึ่งสูญเสีย อาจมีการสังเคราะห์ทางด้านสวัสดิการ ทั้งเรื่องที่ยู่อาศัย การศึกษา และด้านอวัยวะเทียม เพื่อให้กลับมามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น  แม้จะไม่ได้เสียชีวิตแต่ก็ได้สูญเสียอวัยวะบางส่วนไป แม้จะกลายเป็นทหารพิการทางร่างกาย แต่หัวใจ ก็ยังพร้อมสู้เสมอ

สนับสนุนให้มีรายได้
การฝึกอบรมและการฝึกอาชีพ เพื่อให้เกิดความช่วยเหลือเรื่องการฝึกอาชีพที่ถนัด เพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว หรืออาจจะจัดหางานให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การได้ฝึกอาชีพต่างๆ ก็อาจเป็นอีกหนทางหนึ่งของการหารายได้ ที่ยังถือว่าตัวเองได้สร้างประโยชน์ให้กับครอบครัวได้อยู่

ช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน
การสงเคราะห์ด้านที่ดินทำกิน ด้วยการหาทางช่วยเหลือ โดยอาจแบ่งที่ทำกินในด้านเกษตรกรรมให้ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเครื่องมือรวมถึงวิชาการ ซึ่งจะทำให้เหล่าทหารผ่านศึกมีรายได้ขึ้นมาอีกหนึ่งหนทาง ซึ่งยังรวมถึงการสงเคราะห์ด้านกองทุนโดยการจัดหาเงินทุนให้สมาชิกขององค์การทหารผ่านศึกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ เป็นการเริ่มต้นกิจการ เพื่อการลงทุน หลังจากที่ไม่มีอาชีพอื่นๆรองรับ

แนวทางการสนับสนุนกิจกรรมวันทหารผ่านศึก

ทหารผ่านศึกคือ เหล่าทหารกล้าผู้พิทักษ์รักษาประเทศชาติให้มีเอกราชอธิปไตย สีแดงของเลือดของทหารหาญที่ได้หลั่งชโลมแผ่นดินไว้ด้วยความกล้าหาญ เสียสละอันสูงสุด ดังนั้นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันที่เราทั้งหลายจะได้เห็นดอกป๊อปปี้บานสะพรั่งไปทั่วราชอาณาจักร ซึ่งแนวทางการส่งเสริมภารกิจหลักขององค์การทหารผ่านศึก ควรจะต้องมีสืบไป โดยภารกิจหลักขององค์การทหารผ่านศึก ได้แก่ การให้การสงเคราะห์แก่ทหารที่ผ่านการปฏิบัติการรบ และครอบครัวของทหารที่ปฏิบัติการรบ

สงเคราะห์ทางด้านสวัสดิการ

การสงเคราะห์ทางด้านสวัสดิการ เป็นการให้การสงเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไป ที่อยู่อาศัย การศึกษา ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านอวัยวะเทียม เพราะมีเหล่าทหารผ่านศึกที่ออกรบ เมื่อสงครามสิ้นสุด แม้จะไม่ได้เสียชีวิตแต่ก็ได้สูญเสียอวัยวะบางส่วนไป ทำให้กลายเป็นทหารพิการ และไม่เป็นที่ต้องการของสังคม

การสงเคราะห์ทางด้านอาชีพ

การสงเคราะห์ทางด้านอาชีพ โดยการฝึกอบรมและการฝึกอาชีพ ให้ความช่วยเหลือในทางด้านการทำงาน จัดหางานให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแม้จะไร้แขนหรือขา แต่ใจก็ยังสู้ การได้ฝึกอาชีพต่างๆ ก็อาจเป็นอีกหนทางหนึ่งของการหารายได้ ดีกว่านั่งหายใจรอความตายแบบไร้ค่า

การสงเคราะห์ด้านนิคมเกษตรกรรม

การสงเคราะห์ด้านนิคมเกษตรกรรมคือการจัดสรรที่ทำกินในด้านเกษตรกรรมให้ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเครื่องมือและวิชาการ ซึ่งจะทำให้เหล่าทหารผ่านศึกมีรายได้ขึ้นมา เพราะหลังจากไม่ได้รับใช้ชาติแล้วการออกหางานทั่วไปอาจจะลำบาก

การสงเคราะห์ด้านกองทุน

การสงเคราะห์ด้านกองทุนโดยการจัดหาเงินทุนให้สมาชิกขององค์การทหารผ่านศึกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ เป็นการเริ่มต้นกิจการ เพื่อการลงทุน หลังจากที่ไม่มีอาชีพอื่นๆรองรับ

นอกจากนี้ยังมี การสงเคราะห์ด้านการรักษาพยาบาลให้แก่สมาชิก โดยไม่คิดมูลค่า และให้มีการส่งเสริมสิทธิของทหารผ่านศึก โดยการขอสิทธิพิเศษในด้านต่างๆ ให้แก่ทหารผ่านศึก เช่น การขอลดค่าโดยสาร เป็นต้น


ขอบคุณแหล่งที่มา

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

เลิกสูบบุหรี่


เลิกสูบบุหรี่
การติดบุหรี่เป็นการเสพติด 3 ทางด้วยกัน คือ การติดสารนิโคตินในบุหรี่ เมื่อใดที่ขาดนิโคตินร่างกายจะเสียสมดุลทำให้เกิดอาการต่าง ๆ มากมาย เช่น กระสับกระส่าย หงุดหงิด นอนไม่หลับ ปวดหัว วิงเวียนศีรษะ อารมณ์ซึมเศร้า หดหู่ ไม่มีสมาธิ คิดอะไรไม่ออก ฯลฯ,การติดทางสังคมและสภาพแวดล้อม คนรอบข้างหรือเพื่อนเป็นปัจจัยสำคัญในการเริ่มต้นสูบบุหรี่ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่อยากได้รับความยอมรับจากคนเพื่อนฝูง ทำให้สูบบุหรี่ต่อไปจนติดแล้วเลิกไม่ได้ และสุดท้ายคือ การติดทางพฤติกรรมและทางจิตใจ ซึ่งเป็นการเสพติดชนิดหนึ่ง โดยเกิดจากการเรียนรู้แล้วนำมาปฏิบัติจนเคยชิน เช่น เมื่อกินกาแฟจะต้องสูบบุหรี่ไปด้วย หรือมักสูบบุหรี่ในห้องทำงาน เมื่อเข้ามาทำงานก็จะเกิดความอยากสูบบุหรี่ เป็นต้น

เป็นที่ทราบกันดีว่าโทษของการสูบบุหรี่นั้นมีสารพัด เช่นการสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากโดยไม่ได้อะไรนอกจากสุขภาพเสีย ๆ มะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งหลอดลมและหลอดอาหาร มะเร็งช่องปาก ถุงลมโปร่งพอง กระเพาะ อาหารเป็นแผล ตับแข็ง โรคปริทันต์ ฟันเหลือง ตาแดง เล็บเขียว ความดันสูง โรคโพรงกระดูกอักเสบ อาการไอเรื้อรังและมีเสมหะมาก ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวผู้สูบบุหรี่แล้ว บุหรี่ยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง และทำให้สภาพแวดล้อมนั้น ๆ เสียตามไปด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองก็เป็นสาเหตุสำคัญที่เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่จำนวนไม่น้อยอยากพยายามเลิกสูบโดยเด็ดขาด เพราะฉะนั้น วันนี้เราจึงมีวิธีการเลิกสูบบุหรี่มาฝากกัน ส่วนจะมีวิธีใดบ้างและจะยากสักแค่ไหน ไปดูกัน….

วิธีการเลิกสูบบุหรี่

หากำลังใจ กำลังใจจากคนรอบข้างถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีความพยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้ คุณควรบอกให้คนใกล้ชิดทราบถึงความตั้งใจดังกล่าวต้องมีเป้าหมาย เป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรรู้ว่าจะทำไปเพื่อใคร หากคิดว่าอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ขอให้คุณย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าที่เลิกนั้นเพื่ออะไร เช่น เพื่อคนที่คุณรักและคนรอบข้าง เพื่อเก็บเงินในการสร้างอนาคต หรือเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น ฯลฯ แต่บางคนอาจถึงขนาดสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพกันเลยทีเดียว แต่เชื่อไหมว่ามันเลิกได้จริง !เตรียมใจยอมรับ คุณควรค้นหาสาเหตุที่แท้จริงที่เป็นตัวกระตุ้นให้คุณสูบบุหรี่ เพื่อจะได้กับสาเหตุอย่างถูกวิธี เช่น สูบเพราะเครียด อยากเข้ากับเพื่อน งานเลี้ยง ดื่มเหล้า หรือเป็นแค่ความเคยชินหลังมื้ออาหาร ฯลฯ และต้องทำความเข้า
และยอมรับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการเลิกบุหรี่ เช่น กระวนกระวาย หงุดหงิด ง่วงเหงาหาวนอน เป็นต้น พร้อมกับให้กำลังใจตัวเองว่าอาการเหล่านี้มันจะผ่านไปได้ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วันต้องวางแผน คุณควรวางแผนการปฏิบัติตัว โดยกำหนดวันที่จะเลิกสูบบุหรี่ โดยเลือกเป็นวันสำคัญต่าง ๆ ของครอบครัว เช่น วันเกิดตัวเอง วันเกิดลูกหรือคนในครอบครัว วันครบรอบแต่งงาน วันสำคัญทางศาสนา แต่ทั้งนี้ไม่ควรกำหนดวันที่ห่างไกลมากจนเกินไป หรือเป็นวันที่คุณมีภาระต้องรับผิดชอบ เช่น ช่วงสอบ ช่วงที่ต้องไปกินเลี้ยงหรือมีงานสังคม เพราะอาจมีแรงจูงใจทำให้ไม่สามารถเลิกได้ตามที่ตั้งใจไว้ หรือคุณอาจสร้างพิธีกรรมเล็ก ๆ สำหรับวันส่งท้ายด้วยการนำบุหรี่ที่เหลือมาเผาไฟต่อหน้าพร้อมกับกระดาษที่เขียนถึงโทษของการสูบบุหรี่สำหรับวันแรกของการเลิกบุหรี่เลิกในทันที – หักดิบ (Cold turkey) การเลิกขาดในทันทีจะได้ผลชะงัดกว่าการลดปริมาณการสูบ วิธีนี้ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นการให้ผู้ติดบุหรี่เลิกสูบในทันทีโดยไม่ต้องมีการใช้ยาหรือความช่วยเหลือใด ๆ โดยทั่วไปวิธีนี้อาการขาดนิโคตินจะหายไปได้เองภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ ช่วงนี้อาจจะทนทรมาน และลำบากใจสุด แต่ก็ต้องอดทน ผ่านไปได้โอกาสเลิกได้ก็เป็นไปได้สูง อาการไม่สบายตัวต่าง ๆ ก็จะหายไป แต่ยังไงก็ยังดีกว่าทรมานอย่างช้า ๆ ด้วยวิธีการลดปริมาณลงเรื่อย ๆ จริงไหม ?
ทำจิตใจให้เข้มแข็งไม่หวั่นไหว เมื่อถึงวันลงมือปฏิบัติ ควรตื่นนอนด้วยความสดชื่น หายใจให้เต็มปอดสัก 10 ครั้ง อย่างช้า ๆ และปล่อยให้จินตนาการรู้สึกดีกับมวลอากาศบริสุทธิ์ พร้อมบอกกับตัวเองว่าคุณกำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองและคนรอบข้าง รวมถึงทบทวนเหตุผลที่ทำให้คุณตัดสินใจเลิกบุหรี่ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ หันมาใกล้ชิดกับคนที่ไม่สูบบุหรี่ และหลังเลิกสูบบุหรี่มาอย่างน้อย 2-3 อาทิตย์ ก็อาจทำให้เกิดอาการอยากบุหรี่ขึ้นมาได้ วิธีที่สำคัญที่สุดในการเลิกบุหรี่อย่างถาวรก็คือการทำจิตใจให้เข้มแข็งและมีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราสามารถเลิกบุหรี่ได้ทิ้งบุหรี่และที่เขี่ยบุหรี่ไปให้พ้นสายตา การจะเลิกทั้งทีก็ต้องจัดการให้เด็ดขาด อย่ารอช้าที่จะทิ้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ให้หมด ทิ้งได้ก็ต้องทิ้ง อย่าไปเสียดายครับ เพราะหากมีสิ่งยั่วยุเหล่านี้ขึ้นมาขวางตาขวางใจ ก็อาจทำให้ใจเราเขวได้ คิดซะว่าทำเพื่อสุขภาพแล้วกันเน๊อะจัดการดูแลตัวเอง ในระยะแรกของการเลิกสูบบุหรี่ใหม่ ๆ คุณอาจเกิดอาการอยากบุหรี่อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการเสพติดมาจากพฤติกรรมการสูบเดิม ดังนั้นหากมีอาการอยากสูบ ก็ขอแนะนำให้รับประทานผลไม้รสเปรี้ยวหรือดื่มน้ำผลไม้ กินของขบเคี้ยว เคี้ยวหมากฝรั่ง อมลูกอม เคี้ยวไม้จิ้มฟัน อาบน้ำ แปรงฟัน หรือดมยาดมก็ได้ เพื่อช่วยทำให้ไม่รู้สึกอยากสูบบุหรี่ แต่ถ้ามีอาการกระสับกระส่ายและง่วงก็ให้นอนหลับไปเลย หรอไม่ก็ไปหาที่สงบ ๆ ออกไปสูดอากาศตามธรรมชาติ เปิดเพลงนุ่ม ๆ ฟังสบาย ๆ หาคนมานวดหลังและไหล่เพื่อให้เลือดลมหมุนเวียนดีขึ้น ถ้าทนไม่ได้ก็ให้หายางมารัดข้อมือไว้ เมื่อรู้สึกกระสับกระส่ายก็ให้ดีดยางรัดทันที ซึ่งความเจ็บจะดึงความคิดออกจากความอยากบุหรี่ได้ แม้จะเป็นวิธีที่เจ็บแต่ได้ผลนะเออ ส่วนสุรา ชา กาแฟ และน้ำอัดลมควรหลีกเลี่ยง เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความอยากในการสูบบุหรี่มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารมันจัด เผ็ดจัด หรือหวานจัด เพราะอาหารเหล่านี้มีผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพจิต ทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย และให้หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกหลักโภชนาการแทน แต่สำหรับคนที่ติดการสูบบุหรี่หลังการรับประทานอาหาร เมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็ควรจะรีบลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที แล้วหันไปหากิจกรรมอื่น ๆ ทำซะดื่มน้ำให้มาก ๆ คุณควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำสามารถช่วยกำจัดสารนิโคตินออกจากร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตอนตื่นนอนตอนเช้า หลังอาหารทุกมื้อ ช่วงระหว่างอาหาร และก่อนเข้านอนไม่หมกมุ่นและไปหากิจกรรมทำซะ แน่นอนว่าเมื่อคุณไม่ได้สูบบุหรี่ คุณเองก็จะมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยเวลาเหล่านี้ให้เปล่าประโยชน์ คุณควรเอาเวลานั้นมาหากิจกรรมที่คุณชื่นชอบมาทำ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายในแบบที่ตัวเองถนัดอย่างน้อยวันละ 15-20 นาที (เพื่อกระตุ้นร่างกายให้แข็งแรงและซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากภัยบุหรี่) อ่านหนังสือขำขัน การเล่มเกมเมื่อมีเวลาว่าง พูดคุยกับคนอื่น ๆ หรือแต่งบ้านทำสวนก็ดูจะเข้าท่าไม่น้อย แถมยังช่วยผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพราะอย่าลืมว่ายังมีคนไม่สูบบุหรี่อีกมากที่หาวิธีคลายเครียดได้โดยไม่ต้องพึ่งบุหรี่หายใจลึก ๆ ช้า ๆ ติดต่อกัน โดยให้ทำต่อเนื่องกัน 5 นาทีทุกวัน ด้วยการหลับตาและสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ ด้วยจมูกจนเต็มปอด แล้วค่อย ๆ ปล่อยออกอย่างช้า ๆ ระหว่างทำให้คุณสร้างความรู้สึกดีตามไปด้วย พยายามจินตนาการถึงความรู้สึกที่แตกต่างของการไม่มีควันบุหรี่เข้ามาในชีวิต แต่ถ้ายังไม่รู้สึกก็ควรสร้างอุปทาน เช่น ลมหายใจหอมสดชื่นขึ้น รู้สึกเหนื่อยน้อยลงเนอะ หรืออะไรก็ตามที่เป็นสิ่งดี ๆ จากการไม่สูบบุหรี่อาบน้ำหรือแช่น้ำอุ่นวันละ 2-3 ครั้ง โดยให้ทำครั้งละประมาณ 15-20 นาที หลังจากอาบน้ำอุ่นด้วยน้ำอุ่นแล้ว ควรตามด้วยการอาบด้วยน้ำเย็นเพื่อช่วยเพิ่มสดชื่นให้กับร่างกายอยู่ให้ห่างจากสภาพแวดล้อมเดิม ๆ คุณควรพยายามหลีกเลี่ยงไปยังสถานที่หรือช่วงเวลาที่คุณเคยสูบบุหรี่เป็นประจำ รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจทำให้คุณอยากสูบบุหรี่ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มกาแฟ ฯลฯ เพราะความเคยชินดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุทำให้คุณหวนกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง ให้คุณลองหาสถานที่ใหม่ ๆ บรรยากาศใหม่ ๆ หรือไปเดินออกกำลังกายบ้างเล็กน้อยก็ช่วยได้เยอะ !