วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

6 โรคฮิตบั่นทอนชีวิตคนเมือง! / ADMIN - SJ (TONAN ASIA AUTOTECH)


6 โรคฮิตบั่นทอนชีวิตคนเมือง! 


ออฟฟิศซินโดรม
ในสภาวะของสังคมเมืองยุคไอทีและเร่งรีบแบบนี้ ทำให้ชีวิตคนเมืองต้องแข่งขันกับเวลาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดความเครียดและปัญหาสะสมมากมาย อีกทั้งสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่เต็มไปด้วยมลพิษจากรถยนต์และอุตสาหกรรมด้วยแล้ว อาจก่อให้เกิดความเสียงโรคต่างๆ ได้ง่าย วันนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" เลยขอสอดส่อง 6 โรคฮิตที่อาจทำร้ายชีวิตคนเมืองอย่างเราๆ มาฝากกัน กันไว้ดีกว่าแก้นะ … ขอบอก!!!
1. โรคกระเพาะ โรคที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนทำงานที่มักจะทานข้าวไม่ตรงเวลาหรือไม่มีเวลาทานข้าว ซึ่งเกิดจากในขณะที่ร่างกายมีนาฬิกาชีวภาพอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่น้ำย่อยทำงานกลับไม่มีอาหารตกถึงท้อง ทำให้น้ำย่อยโจมตีเยื่อบุกระเพาะแทน เป็นสาเหตุทำให้คนที่ทานข้าวไม่ตรงเวลามักปวดท้องเนื่องจากท้องว่างนั่นเอง !
เช็กอาการปวดท้อง แบบไหนใช่โรคกระเพาะ 
- แผลที่เกิดในลำไส้เล็กส่วนต้น จะมีอาการปวดท้องบริเวณท้องด้านขวาส่วนบน เวลาหิว จะหิวบ่อย
- แผลที่เกิดในกระเพาะอาหารโดยตรง จะมีอาการปวดท้องเวลาอิ่ม จะรู้สึกแสบๆ เจ็บๆ บริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่
- ถ้าร้ายแรง อาจทำให้ปวดท้องอย่างหนัก อาเจียนและมีอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บอกลาโรคกระเพาะ 
- ผ่อนคลายจิตใจ ด้านความเครียด ความกังวลต่างๆ เพราะนั่นมีผลต่อการกระตุ้นให้กระเพาะสร้างกรดเพิ่มขึ้น มากกว่าปกติ
- หมั่นออกกำลังกาย ให้กล้ามเนื้อท้องผ่อนคลาย แข็งแรง กระเพาะอาหารก็จะแข็งแรงไปด้วย
- จัดสรรเวลาการทำงาน หมั่นทานอาหารให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ (ฝึกทานให้เป็นอุปนิสัย)
2. ไมเกรน โรคฮิตที่พบได้บ่อยสำหรับคนที่มีความเครียดสูงและมีเวลาจำกัดในการทำสิ่งต่างๆ โดยสาเหตุยังไม่รู้แน่ชัด แต่ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากสมองที่ไวต่อการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่นอกหรือในร่างกาย ทำให้หลอดเลือดอักเสบและเมื่อมีตัวกระตุ้นมาทำให้หลอดเลือดขยาย จึงเกิดการปวดศีรษะขึ้น
เช็กอาการปวดหัวแบบไหนกัน ส่อแววเป็นไมเกรน 
- ปวดศีรษะครึ่งซีกบริเวณขมับหรือท้ายทอย อาจปวดข้างเดียวหรือสองข้างพร้อมกัน หรือเป็นสลับข้างก็ได้
- ปวดตุ๊บๆ ในสมองเป็นเวลานาน ครั้งละ 20 นาทีขึ้นไป
- ปวดศีรษะรุนแรง อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
- ก่อนปวดศีรษะประมาณ 10-20 นาที บางครั้งอาจมองเห็นแสงเป็นเส้นระยิบระยับสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยว
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดระดับไมเกรน 
- ผ่อนคลายจากการทำงานโดยอาจหาเวลานั่งพักหลับตาช่วงระหว่างวัน
- หากิจกรรมสนุกๆ ทำหลังเลิกงาน อย่างเช่น ออกกำลังกาย (ตีแบดฯ,ว่ายน้ำ)
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ปรับพฤติกรรมการกินอยู่ เช่น ลดชา กาแฟ ผงชูรสต่างๆ
ไมเกรน
ไมเกรน
3. ลำไส้แปรปรวน อีกโรคที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนเมือง เกิดจากการบีบตัวของลำไส้ที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นผลมาจากการหลั่งสารหรือฮอร์โมนที่ผิดปกติบางอย่างในผนังลำไส้ ทำให้เกิดการปวดท้องขึ้น รวมทั้งอาจเกิดจากระบบประสาทที่ผนังลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า ซึ่งอาจมีตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการผิดปกติขึ้น ได้แก่ อาหารที่มีรสเผ็ด เปรี้ยว กาแฟ แอลกอฮอล์และช็อกโกแลต ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ก็ส่งผลต่อลำไส้ด้วยเช่นกัน
เช็กอาการเบื้องต้น สัญญาณบอกโรคลำไส้แปรปรวน 
- มีอาการแน่นท้อง อืดท้อง
- มีอาการปวดแบบเกร็งๆ บริเวณกลางท้องหรือบริเวณท้องน้อย
- ท้องโตขึ้นเหมือนมีลมอยู่ในท้อง อาจมีอาการเรอหรือผายลมบ่อยๆ
- ถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเสีย หรือท้องผูกสลับท้องเสีย บางรายรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด อุจจาระมีลักษณะเหลวหรือเป็นมูกร่วมด้วย
- อาการมักเป็นๆ หายๆ มากน้อยสลับกัน และมีอาการเกิน 3 เดือน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รับมือโรคลำไส้แปรปรวน 
- รับประทานอาหารสด สะอาด ครบหมวดหมู่
- ไม่ควรทานอาหารรสเผ็ด เปรี้ยว
- ลดเครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกฮอล์ให้น้อยลง (ควรหลีกเลี่ยงถ้าเป็นไปได้)
- หาเวลาพักผ่อนจิตใจ คลายสมอง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน ให้ร่างกายผ่อนคลายและสุขภาพแข็งแรง
ลำไส้แปรปรวน
ลำไส้แปรปรวน
4. โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเงียบที่คนเมืองกรุงไม่ควรมองข้าม ! เนื่องจากอยู่ท่ามกลางมลภาวะเป็นพิษทำให้หลายคนอาจลืมไปว่านั่นเป็นสาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจ อย่าง ปอด หวัด ภูมิแพ้ ไซนัส ที่เราควรต้องระวังเป็นพิเศษ
เช็กอาการเบื้องต้น โรคเงียบใกล้ตัว ...
- เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หายใจไม่สะดวก
- ป่วยกระเสาะกระแสะ เหมือนเป็นไข้ตลอดเวลา เช่น คัดจมูก น้ำมูกน้ำตาไหล
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้ปลอดจากโรคร้าย 
- หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลารถติด
- พักอาศัยในที่ถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงพักอาศัยในเขตชุมชน เขตอุตสาหกรรม ย่านออฟฟิศหรือทาวเวอร์
- หาเวลาออกไปสูดอากาศนอกเมืองบ้าง
- ออกกำลังกายเป็นประจำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกัน
5. กล้ามเนื้อเมื่อยล้า เป็นโรคที่พบอันดับต้นๆ ของมนุษย์เงินเดือน ที่เกิดจากความเมื่อยล้าและความเครียดของกล้ามเนื้อ(รวมถึงกล้ามเนื้อดวงตา) หลังจากการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานหน้าคอมฯตลอดทั้งวัน
เช็กอาการ สัญญาณบ่งบอกความเมื่อยล้า 
- ปวดข้อกระดูกนิ้วและกระดูกข้อมือ เนื่องจากกดแป้นคีย์บอร์ดและขยับเมาส์ตลอดเวลา
- กล้ามเนื้อไหล่ตึงและปวด
- ปวดตาและเริ่มมองเห็นเป็นภาพเบลอๆ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคุมไม่ให้ลุกลาม 
- ขณะนั่งทำงานหาวิธียืดเส้นยืดสายหรือลุกเดินให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ้าง
- หลับตาหรือพักสายตาหรือมองออกไปยังบริเวณต้นไม้ จะช่วยผ่อนคลายสายตาได้เยอะ
- ปรับอุปกรณ์คอมฯให้เหมาะสมกับสรีระ เช่น ปรับจอมอนิเตอร์ให้ห่างจากตัวอย่างน้อย 16 นิ้ว หรือปรับจอภาพให้อยู่ระดับเดียวกับสายตา
- จัดสรรเวลาทำงานใหม่ หาเวลาผ่อนคลายความเครียดโดยการเล่นกีฬาบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
กล้ามเนื้อเมื่อยล้า
กล้ามเนื้อเมื่อยล้า
6. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ด้วยปัจจัยหลายอย่างด้านความรีบเร่งในการทำงาน รถติดหรือห้องน้ำไม่สะอาด ทำให้สาวๆ เลือกที่จะกลั้นปัสสาวะไว้ แต่รู้ไหมว่าปริมาณน้ำนั้นจะเพิ่มเป็นเท่าตัว ทำให้กระเพาะปัสสาวะบวมขึ้น ! ยิ่งผู้หญิงมีท่อน้ำปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชายด้วยแล้ว เชื้อโรคนี้จึงย้อนกลับเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะและเกิดการติดเชื้อได้
เช็กอาการ นี่แหละ … กระเพาะปัสสาวะอักเสบ !
- ปวดปัสสาวะมากกว่า 8 ครั้งต่อวัน หรือปวดกะปริบกะปรอยต้องเข้าห้องน้ำบ่อยๆ
- ปัสสาวะแล้วแต่รู้สึกเหมือนยังไม่สุด
- รู้สึกปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะ
- ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น สีจะใส แต่บางรายอาจมีเลือดปน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดความเสี่ยงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 
- เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ ไม่ควรอั้นไว้
- หมั่นรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดและท่อปัสสาวะ
- ดื่มน้ำมากๆ ช่วยในการขับแบคทีเรียที่หลุดเข้ากระเพาะปัสสาวะ
แหล่งที่มา :
ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น