วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

ไวรัสคอมพิวเตอร์ คืออะไร อันตรายของไวรัสคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง / ADMIN - SJ (TONAN ASIA AUTOTECH)

ไวรัสคอมพิวเตอร์ – ภัยใกล้ตัวของคนยุคไอที
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไวรัสคอมพิวเตอร์ได้สร้างความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเป็นอย่างมาก เป้าหมายการสร้างความเสียหายที่เกิดจากไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ขยายวงกว้างตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป ไปจนถึงระดับองค์กรใหญ่ระดับโลก ซึ่งถือว่าปัญหานี้เป็นภัยใกล้ตัวคนยุคไอทีในปัจจุบันที่มองข้ามไม่ได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่า ไวรัสคอมพิวเตอร์ นั้นคืออะไรเป็นมาอย่างไร และเราจะมีวิธีป้องกันตัวเองให้พ้นภัยได้อย่างไรกันบ้าง
ไวรัสคอมพิวเตอร์คืออะไร หมายถึงอะไร
ไวรัสคอมพิวเตอร์นั้นไม่ใช้เชื้อโรคที่สามารถแพร่กระจายสู่คนได้แต่อย่างใดหรอกครับ แต่มันคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ถูกเขียนและพัฒนาขึ้นมาโดยโปรแกรมเมอร์สายมืด (พวกที่เขียนโปรแกรมสำหรับก่ออาชญากรรมทางด้านไอที) ไวรัสนั้นเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับระบบคอมพิวเตอร์โดยจุดมุ่งหมายเริ่มแรกมาจากการกลั่นแกล้งกันเพื่อรบกวนไม่ให้ระบบคอมพิวเตอร์เป้าหมายสามารถทำงานได้ตามปกติ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปแนวคิดในการเขียนไวรัสเริ่มรุนแรงขึ้นถึงขั้นทำลายข้อมูล และโจรกรรมข้อมูลเพื่อขายในตลาดมืด (มักจะเป็นข้อมูลลูกค้าของธนาคารหรือสถาบันการเงิน) ในปัจจุบันไวรัสและแอนตี้ไวรัสมีการพัฒนาแทบจะเรียกว่าวันต่อวัน จนเราต้องมั่นอัพเดตโปรแกรมสแกนไวรัสให้ใหม่อยู่เสมอ
ไวรัสคอมพิวเตอร์
อันตรายของไวรัสคอมพิวเตอร์
ขีดความสามารถของไวรัสนั้นสามารถพัฒนาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ขึ้นอยู่กับว่าไวรัสตัวนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายใด ไวรัสบางตัวอาจทำแค่รบกวนไม่ให้เราสามารถทำงานตามปกติได้ เช่น ล็อคเมาส์หรือหน้าจอ ทำให้เครื่องช้าลง หรือซ่อนไฟล์งาน เป็นต้น บางตัวก็ใช้สำหรับทำลายข้อมูล หรือแม้กระทั่งการเปิดประตูลับ (Back door) ของเครื่องเป้าหมายอย่างม้าโทรจันเพื่อให้สามารถควบคุมการทำงาน ไปจนถึงล้วงเอาข้อมูลออกมา ผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ไวรัสคอมพิวเตอร์
ช่องทางการแพร่กระจายไวรัสคอมพิวเตอร์
การแพร่กระจายไวรัสคอมพิวเตอร์ในยุคแรก มักจะแพร่กระจายไปกับสื่อบันทึกข้อมูลเป็นหลัก เพราะในสมัยนั้นการใช้งานระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย แต่ในปัจจุบันก็ยังมีไวรัสที่ใช้วิธีการนี้อยู่ เช่น ไวรัสซ่อนไฟล์ ไวรัสช็อตคัต เป็นต้น พอถึงยุคอินเทอร์เน็ต การแพร่กระจายเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบของ E-mail, การดาวน์โหลดไฟล์, เว็บไซต์ โดยใช้ความอยากรู้อยากเห็นของคนมาเป็นตัวล่อให้เปิดไวรัส ทันทีที่เราเผลอคลิกเข้าไปโดยที่เครื่องไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัส ก็จะทำให้ไวรัสแพร่กระจายเข้าสู่เครื่องเราทันที
ไวรัสคอมพิวเตอร์
จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องเราติดไวรัสเข้าแล้ว
อาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสนั้นสังเกตได้ไม่ยาก ถ้าหากเรารู้สึกว่าเครื่องเริ่มทำงานช้า ๆ อืด ๆ ผิดปกติ อยู่ ๆ เครื่องก็หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ ข้อมูลที่เคยมีหายไปทั้งๆที่ไม่ได้ลบ ส่งเสียงหรือมีข่าวแปลกๆแจ้งเตือน ไฟล์งานที่มีถูกเปลี่ยนเป็นขยะ หากพบอาการเหล่านี้ให้ตั้งสติทบทวนก่อนว่าก่อนหน้านี้เราได้ทำอะไรกับเครื่องไปบ้างหรือไม่ เพราะพฤติกรรมบางอย่างก็สามารถทำให้เกิดอาการคล้ายกับติดไวรัสได้เหมือนกัน
ไวรัสคอมพิวเตอร์
วิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์และพฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยง
ในปัจจุบันอัตราการติดไวรัสเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้นว่าหลักการแพร่กระจายของไวรัสนั้น ใช้ความอยากรู้อยากเห็นของคนเป็นหลัก ยิ่งในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เราสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่ายขึ้น ยิ่งทำให้ไวรัสแพร่กระจายได้ง่าย เช่น ไวรัสที่มากับ E-mail ไวรัสที่โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค หรือส่งข้อความใน inbox ซึ่งหากเราเห็นแล้วเฉยๆ เจ้าไวรัสก็จะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นวิธีป้องกันเบื้องต้นก็คือ ติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัส ไม่เข้าเว็บไซต์แบบมั่วๆไปตามลิงค์ที่ส่งมาให้ งดพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็นลงเสียบ้าง และเลือกดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น นอกจากนี้ต้องมั่นอัพเดตโปรแกรมสแกนไวรัสให้ใหม่อยู่เสมอ เพียงแค่นี้ก็ห่างไกลจากภัยของไวรัสคอมพิวเตอร์แล้วล่ะครับ
ไวรัสคอมพิวเตอร์
จะเห็นได้ว่าไวรัสคอมพิวเตอร์นั้นสามารถป้องกันได้โดยเริ่มต้นจากพฤติกรรมการใช้งานของเรา เพราะโปรแกรมสแกนไวรัสก็เปรียบเสมือนวัคซีนป้องกันโรค หากเรายังทำตัวเสี่ยงอยู่แล้วเจอไวรัสคอมพิวเตอร์สายพันธุ์ใหม่มา วัคซีนที่มีอาจจะต้านไม่ไหวสุดท้ายเราจะเป็นฝ่ายต้องเจ็บตัวเสียเอง การป้องกันคอมพิวเตอร์แสนรักของเราให้ปลอดภัยนั้นจำเป็นต้องมีโปรแกรมสแกนไวรัสที่ดีทันสมัย และพฤติกรรมการใช้งานที่ดีด้วยเช่นกันครับ
        ขอบคุณแหล่งข้อมูล 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น